บันทึกการเยือนHongkong - Shenzhen ประเทศจีน
March 2019
หลังจากLanded สู่แผ่นดินHongkongแล้ว ทีมเรามุ่งหน้าสู่ทริปไหว้พระขอพรกันก่อน เป็นขวัญและกำลังใจสำหรับคนทำงาน เพราะการสร้างการเปลี่ยนแปลง เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความเชื่อและกำลังใจ Hong kongเป็นเกาะที่มีระบบคมนาคมขนส่งที่ดีมาก หลายๆอย่างถูกคิดขึ้นมาอย่างเป็นระบบภายใต้Universal Design และ “ฮวงจุ้ย” ใช่อ่านไม่ผิดหรอก ฮวงจุ้ยจริงๆ อย่างการสร้างอุโมงค์ลอดใต้ทะเลที่ลงทุนมหาศาลจะทำยังไงให้คืนทุน ก็ใช้หลักการคิดแบบฮวงจุ้ยนี่ล่ะ เช้าอีกวันพวกเราตั้งใจไปเยี่ยมชม Hongkong Science Museum ไปมาทั้งญี่ปุ่น เกาหลี ขอยืนยันว่า Museum จุดเริ่มต้นของการพัฒนาชาติที่ดี (การพัฒนาชาติเริ่มต้นจากการพัฒนา”คน”ในชาติก่อน) ที่ Hongkong Science Museum มีเด็กๆวัยอนุบาลเข้ามาเรียนรู้+เล่นสนุกเต็มไปหมด ใช้คำว่า “เล่น” ถูกแล้วเพราะอุปกรณ์ ทุกอย่างที่นี่จับต้อง ทดลองเล่นได้ ให้เด็กได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง หมดเวลาของ Hongkongแล้ว ถึงเวลาไปต่อกันที่Shenzhen
Shenzhenเป็นเมืองที่สร้างขึ้นใหม่ แทบทุกอย่างแม้กระทั่งต้นไม้ใหญ่ที่เห็นคือรัฐบาลซื้อต้นไม้จากชาวสวน เอามาวางในเมือง จัดสวยมากวางผังเมืองดี และที่สำคัญอากาศดีสุดๆเพราต้นไม้เยอะ ถนนสะอาดเปิดมุมมองใหม่ในสายตาผู้มาเยือนอย่างเรา เมือง คน ธรรมชาติ และเทคโนโลยี ที่ผสมกันอยู่ได้อย่างแนบเนียนและลงตัว ที่Shenzhen เราไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยTsinghua i-Space , open FIESTA ก็ได้แต่ตาร้อนด้วยความอิจฉา เพราะรัฐบาลสนับสนุนเต็มที่ ทีมStartup ก็มีนักลงทุนร่วมลงทุนด้วยเม็ดเงินจำนวนไม่น้อย ฟังแล้วไม่อิจฉาได้ไง
จากมหาวิทยาลัยข้ามไปเยี่ยมชมMaker ใหญ่อย่าง Seeed Studio ที่นี่มีความเก๋ตั้งแต่ทางเข้า ดูจากด้านนอกแล้วคิดว่าถ้าให้ลงรถเมล์แล้วเดินเข้ามาเองคงหลงไปอีกเมืองนึงแน่ๆ ด้านในก็เก๋มาก มีความเป็นMaker (แต่ไม่รก) เครื่องไม้เครื่องมือเยอะแยะ Prototype เยอะแยะเต็มไปหมด ที่Seeed เปิดให้ใช้แบบสมัครสมาชิก สมาชิกสามารถเข้ามาสร้างชิ้นงานได้โดยทางสตูดิโอจะมีวัสดุให้ ไปจนถึงสามารถดีลโรงงานขนาดใหญ่เพื่อผลิตชิ้นงานในปริมาณมากอีกด้วย ไม่ให้อิจฉาได้ไงเนอะ ข้ามมาอีกวัน เราไปบุกอาณาจักรTencent !
“Tencent is everything”
ฟังดูเวอร์วัง บ้าหรือเปล่าอะไรจะขนาดนั้น
ใช่! อะไรจะขนาดนั้นเวอร์ !
แต่ที่จีนมันเป็นไปแล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่พร้อมความรวยอันดับ1ของจีน ก็ Tencent นี่ล่ะ platfomหลายอย่างที่ใช้กันตั้งแต่จ่ายค่าน้ำค่าไฟ
นัดเวลาหมอ คุยแชท เกม ไปจนถึงนู้นน จ่ายตัง ก็มาจากTencent นอกจากแอพฯสามัญประจำบ้านทั่วไป บริษัทกำลังพัฒนา A (ai) B (Big Data) C (Clouds)อีก ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
เย็นวันนึงทีมเราไปสำรวจsupermarketsห้างใกล้ที่พักที่เซินเจิ้น ช้อปปิ้งเสร็จก็หาช่องจ่ายตัง เลยเลือกช่องself service สแกนสินค้าใส่ถุงไปจนหมดตะกร้า พร้อมจ่ายตัง แต่!!!!! สารพัดบัตรที่มีในกระเป๋า ไม่สามารถรูดได้เลย ที่ห้างไม่รับvisa เลยสักบัตร (ใช่จ้ะvisaของเมกา แล้วไงจีนไม่แคร์ จีนทำUnionPay มาใช้เองค่า) รูดมับทุกบัตรก็ไม่ได้ แถมหน้าจอมีแต่ภาษาจีน สักพักพนักงานใจดีเดินมาแนะนำ (ด้วยภาษาจีน) ว่าเธอๆจ่ายผ่านWeChatซิจ๊ะ ไม่รู้เหรอที่นี่เป็น clashless socity (จริงๆฟังไม่ออกหรอก อรรถรสน่ะ) พยายามกันอยู่นาน
หมายถึงพยายามบอกอยู่นานว่าเราไม่มีบัญชีของจีนมันเลยผูกจ่ายกับWeChatไม่ได้ (โว้ย) สรุปสุดท้าย จ่ายเงินสดให้พนักงาน และพนักงานเอาWeChat ตัวเองสแกนจ่ายเงินกับเครื่อง
จบ!
ถ้าคุณเคยใช้ QQ chat
ถ้าคุณเคยอ่านข่าวจาก sanook.com
ฟังเพลงผ่าน joox
เล่นเกมค่าย Garena
ที่ว่ามานี่คือบางส่วนจากTencent
อ้าว นี่มันTencent is Everywhere แล้วนี่นา
มาShenzhenรอบนี้ได้เห็นเมืองจีนอีกมุมที่เราไม่เคยเห็น ได้รู้คำตอบแล้วว่าทำไมประเทศตะวันตกจึงกลัวจีนมาก เมืองนี้มีการพัฒนาไปในทุกทาง เช่น ระบบขนส่ง ระบบโทรคมนาคม การศึกษา พานิชยกรรม หรือแม้แต่ระบบราชการ ได้เห็นการทดลองใช้5Gในเมือง เห็นการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในขั้นที่เราไม่คิดจะไปถึงเห็นการจัดระบบการขนส่งและการก่อสร้าง ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสะพานลอยทุกที่มีการติดไฟส่องสว่าง ตกแต่งอย่างดีและมีหลังคาคลุม การจับจ่ายใช้สอยที่ไม่ยอมรับเงินสด ระบบราชการที่ใช้เทคโนโลยีเข้าไปอย่างเต็มที่ หรือในด้านอื่นๆทุกด้าน วันนี้ได้ข้อสรุปจากน้องนักเรียนไทยที่นี่ว่าทั้งหมดนี้คือ “Chinese Characteristics “ คืออัตลักษณ์ความเป็นจีนที่รัฐบาลใช้ในการปกครอง โดยไม่จำเป็นต้องทำตามอย่างประเทศไหน แต่ขอใฟ้การจัดการ เหมาะสมกับบริบทสังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจของตนก็พอ
by SEDA Team